บทความแนวคิดทางธรรมเรื่อง “อย่าหวังพึ่งร่มเงาเมฆ” โดย น.ท.สมปอง วัฒนกูล อศจ.บก.รร.นร.
อย่าหวังพึ่งร่มเงาเมฆ
โดย น.ท.สมปอง วัฒนกูล อศจ.บก.รร.นร.
เมื่อดวงอาทิตย์ถูกเมฆลอยมาบดบัง ย่อมทำให้เกิดร่มเงาขึ้นที่ภาคพื้นดิน แต่ร่มเงาเมฆนั้นก็เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น เมื่อเมฆลอยหายไป เงาก็ย่อมจะหายไปด้วย ไม่อาจเป็นเงาที่ถาวรได้ คนที่พึ่งร่มเงาเมฆจึงพึ่งได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่อาจพึ่งได้ตลอดไป
ในทางพระพุทธศาสนา มีสิ่งที่เปรียบได้กับร่มเงาเมฆนั่นก็คือการพนัน ในปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยหวังสร้างฐานะให้มั่นคงเป็นปึกแผ่นหรือหวังรวยทางลัด ด้วยการเล่นการพนัน บางครั้งแม้จะโชคดีได้ทรัพย์สินเงินทองมา ก็ได้มาเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่ด้วยเวลาที่ไม่นานนัก ทรัพย์สินเงินทองนั้นก็จะค่อย ๆ มลายสูญสิ้นไป จึงกล่าวได้ว่าไม่มีใครสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างฐานะให้แก่ตัวเอง หรือแม้แต่สร้างมรดกไว้ให้ลูกหลานได้ด้วยการเล่นการพนันเลย เพราะในที่สุดแล้ว ย่อมจะพบกับความหายนะ ความวิบัติเดือดร้อนต่าง ๆ จนถึงสิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ดังนั้น พระท่านจึงพูดว่าการพนันเป็นอบายมุข คือทางแห่งความเสื่อมประการหนึ่ง
ในทางตรงกันข้าม คนที่มีความขยันหมั่นเพียร ประกอบอาชีพที่สุจริต รู้จักประหยัดอดออม ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว ก็ย่อมสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ไม่ลำบากฝืดเคือง ถึงแม้จะมีรายได้ไม่มากนัก แต่ก็เป็นรายได้ที่มั่นคงได้ เหมือนร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ย่อมเป็นร่มเงาที่ถาวรกว่าร่มเงาเมฆ
ผู้หวังสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างฐานะให้มั่นคงเป็นปึกแผ่น จึงควรประกอบอาชีพที่สุจริต เป็นต้นดังกล่าว และไม่ควรฝากอนาคตไว้กับการพนัน เพราะการหวังร่ำรวยทางลัด เป็นความเพ้อฝัน เปรียบเหมือนการหวังพึ่งร่มเงาเมฆโดยแท้