ส่งท้ายปีด้วยวิถีธรรม
โดย น.ท.สมปอง วัฒนกูล อศจ.บก.รร.นร.
เป็นที่ทราบกันดีว่า เดือนธันวาคมของทุกปีเป็นเดือนส่งท้ายปีเก่าตามหลักสากลนิยม ซึ่งวิธีส่งท้ายปีเก่าตามหลักสากลนิยมนั้น นิยมจัดกิจกรรมในลักษณะรื่นเริงบันเทิงใจ แต่ตามหลักวิถีธรรม ชาวพุทธ นิยมส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ด้วยการทำความดี โดยการให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม และเจริญจิตภาวนา เพื่อทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส
เมื่อปีเก่ากำลังจะผ่านไป ทุกคนควรสำรวจตนเองว่า ได้ทำหรือสร้างอะไรไว้บ้าง การหันมามองดูตนเอง จะทำให้เห็นข้อดีข้อเสียของตนเอง เข้าหลักที่ว่า “เห็นข้อบกพร่องของตน เป็นผลให้ปรับปรุงตัว ไม่มั่วในสิ่งผิด ทำชีวิตให้มีสาระ เอาชนะอุปสรรค ใช้หลักธรรมนำมาปฏิบัติ” หลักธรรมที่ควรนำมาปฏิบัติคือ อัปปมาทธรรม เป็นหลักที่เตือนให้ไม่ประมาทหรือไว้ใจในเรื่องต่าง ๆ เช่น ไม่ประมาทในเวลา ในวัย ในชีวิต ในความไม่มีโรค ในการงาน ในการศึกษา และในการปฏิบัติธรรม เป็นต้น ส่วนการหันกลับมามองตนเองและสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น มีหลักการมองอยู่ ๒ วิธี คือ ๑. มองในแง่ปลง คือมองสังขารร่างกายว่า ทุกคนต้องตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ที่ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นของไม่มีตัวตน หรือมองสรรพสิ่งว่า ล้วนเป็นของชั่วคราว ไม่ควรยึดติด เป็นต้น ๒. มองในแง่ปลุก คือมองสถานภาพของตนเอง มองสังคมที่ต้องไปสัมพันธ์เกี่ยวข้อง มองการพัฒนาตนเอง มองข้อบกพร่องของตนเอง มองผลของการกระทำ มองวันเวลา โดยให้หมั่นถามตัวเองอยู่เสมอว่า วันคืนล่วงไป ๆ เรากำลังทำอะไรอยู่ เป็นต้น
หลักความจริงที่ว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป ย่อมทำให้สรรพสิ่งต่าง ๆ ในโลกเปลี่ยนแปลงไปด้วย ความเปลี่ยนแปลง จึงมีอิทธิพลทำให้สิ่งต่าง ๆ ดีขึ้นหรือเสื่อมลงได้ ฉะนั้น ในโอกาสส่งท้ายปีเก่านี้ ก็ขอให้ลองหันมาทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิต สิ่งไหนที่ดีอยู่แล้ว ก็พยายามทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ด้วยการพัฒนาให้ทันสมัย ทันโลก ทันเหตุการณ์ในปัจจุบัน ส่วนสิ่งไหนที่เห็นว่า ยังบกพร่องอยู่ ก็หาทางปรับปรุงแก้ไขให้ดีต่อไป อย่าปล่อยให้เป็นภาระของตนเองและผู้อื่น ถ้าปฏิบัติได้เช่นนี้ รับรองได้ว่า จะเป็นการส่งท้ายปีด้วยวิถีธรรม อันจะนำความสุขมาสู่ตนเองได้อย่างแน่นอน