12ข้อควรรู้ก่อนไปบริจาคเลือด
- รู้จักตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 17 โดยในช่วงนั้นเชื่อว่าโรคนี้ มีอาการไข้สูง สาเหตุเกิดจากอากาศเสีย (mal’aria แปลว่า อากาศเสีย ในภาษาอิตาลี) แต่ในสุดท้าย โรคมาลาเรียนี้เกิดจากเชื้อปรสิตในกลุ่มของ Plasmodium
- อุบัติการณ์ พบได้ในประเทศเขตร้อนเป็นส่วนใหญ่ จากข้อมูลของ WHO ในปี พ.ศ.2559 พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 216 ล้านคน เสียชีวิต 445000 คน
- พาหะที่สำคัญ ได้แก่ ยุงก้นปล่อง
- การแพร่พันธุ์ของโรคมีได้ตั้งแต่ วิธีธรรมชาติ(การที่ถูกยุงกัด) การแพร่โดยบังเอิญ(จากการถ่ายเลือด ใช้เข็มร่วมกับผู้อื่น) การแพร่ผ่านทางรก และการแพร่เพื่อการรักษาโรคอื่น (เช่น การรักษาโรคซิฟิลิสขึ้นสมอง)
- อาการเริ่มแรก จะมีอาการคล้ายไข้หวัด แต่ว่าจะมีรูปแบบของไข้ที่แตกต่าง เช่น ไข้วันเว้นวัน ไข้ 1 วันเว้น 2 วัน เป็นต้น และหากมีการติดเชื้อที่รุนแรงก็จะมีผลแทรกซ้อนไปอวัยวะต่างๆได้
- การตรวจวินิจฉัย เป็นการย้อมสีแล้วดูการติดเชื้อจากเลือด หรือการตรวจหาแอนติเจนของเชื้อ
- การรักษา ได้แก่ การให้ยาฆ่าเชื้อ และการรักษาตามอาการ
- การป้องกัน ได้แก่ การป้องกันยุง (กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง กางมุ้ง) หลีกเลี่ยงไปในจุดที่เสี่ยงต่อการติดโรคได้ง่าย เช่น จุดที่มีการแพร่ระบาด ป่า เป็นต้น
ที่มา :
http://www.med.cmu.ac.th/dept/parasite/public/malaria.html
http://www.who.int/malaria/en/
http://knowledgemosquito.blogspot.com/2015/08/blog-post.html
Related posts