การจุดเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา โดย น.ท.สมปอง วัฒนกูล อศจ.บก.รร.นร.

การจุดเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา

โดย  น.ท.สมปอง  วัฒนกูล  อศจ.บก.รร.นร.

ธรรมเนียมการจุดเทียนบูชานั้น จะต้องเริ่มต้นจุดเล่มที่ตั้งทางด้านขวาพระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อน แล้วจึงจุดเล่มที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายถัดมา ซึ่งก็ตรงกับหลักนิยมสากลที่ว่า เมื่อจะทำอะไรที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ในโอกาสเดียวกัน ก็จะต้องเร่ิมจากทางขวามือเป็นอันดับแรก  เหมือนอย่างการเข้าแถวของทหาร ก็จะต้องยึดขวามือเป็นหลักในการจัดแถว แม้การนั่งเรียงลำดับอาวุโสของพระสงฆ์ ก็ต้องเริ่มต้นจากทางขวามือเช่นเดียวกัน

เคยเห็นประธานในพิธีบางท่านจุดเทียนที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายพระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่รู้ธรรมเนียมก็ได้ หรือรู้เหมือนกันแต่ไม่รู้ชัด คือ รู้ว่าจะต้องจุดเล่มขวามือก่อน แต่เข้าใจว่าเป็นขวามือของตัวเอง  จึงทำให้จุดเทียนไม่ถูกตามธรรมเนียม

แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องสำคัญของพิธี หมายความว่า แม้จะจุดสลับกันก็ไม่ถึงกับทำให้พิธีเสียแต่ประการใด  แต่ถ้าได้จุดให้ถูกต้องตามธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาจนเป็นวัฒนธรรมทางศาสนาแล้ว ก็จะไม่มีใครตำหนิได้

บทความแนวคิดทางธรรมเรื่อง “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” โดย น.ท.สมปอง วัฒนกูล อศจ.บก.รร.นร.

เรื่อง  อดเปรี้ยวไว้กินหวาน

โดย  น.ท.สมปอง  วัฒนกูล  อศจ.บก.รร.นร.

คำว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เป็นสำนวน คือเป็นถ้อยคำที่มีความหมายไม่ตรงตามตัวหนังสือหรือมีความหมายอื่นแฝงอยู่ ซึ่งในภาษาไทยมีอยู่หลายคำ อดเปรี้ยวไว้กินหวานนี้ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้คำนิยามว่า อดใจไว้ก่อนเพราะหวังสิ่งที่ดีกว่าข้างหน้า  หมายถึง รู้จักรอคอยเพื่อผลที่ดีกว่านั่นเอง

การอดทนและรอคอยนี้เป็นวิธีการหนึ่งแห่งการเข้าถึงความสำเร็จ  ดังมีเรื่องเล่าว่า ชายสองคนหาขวดขายด้วยกัน ทั้งสองทำสัญญากันว่า ถ้ายังไม่มีเงินถึง ๘๐ ชั่ง จะไม่ยอมกินเป็ดกินไก่เป็นอันขาด วันหนึ่งระหว่างที่คนแรกหาขวดขายก็ไปพบกับวงการพนันเข้า จึงตัดสินใจเล่นพนัน ปรากฏว่าชนะ     จึงซื้อเป็ดซื้อไก่กินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วเอามาฝากเพื่อนด้วย คนที่สองพอทราบเรื่องแทนที่จะดีใจกลับโกรธที่เพื่อนไม่รักษาสัจจะ ไม่ยอมกินเป็ดไก่นั้นและตัดสินใจเลิกคบกัน แล้วตั้งใจรักษาสัจจะให้มั่นกว่าเดิม     ทำมาหากินด้วยความพากเพียรจนกระทั่งร่ำรวย ในที่สุดได้รับบรรดาศักดิ์เป็นถึงพระยา ในขณะที่คนแรกนั้นหากินไปเล่นการพนันไป สุดท้ายหมดตัว สังขารก็ทรุดโทรมขายขวดต่อไม่ไหวต้องกลายเป็นขอทาน กระเซอะกระเซิงมาจนถึงบ้านของพระยาที่เคยขายขวดมาด้วยกัน  ท่านพระยาจำได้ก็จูงมือเพื่อนเก่าขึ้นไปบนบ้าน พาไปดูไม้คานที่ตัวเองเคยหาบขวดขายจนตั้งตัวได้ และนำมาปิดทองตั้งบูชาไว้ในตู้     เพื่อสอนให้เพื่อนตระหนักในคุณค่าแห่งการรอคอยเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ดังที่ตัวได้ทำสำเร็จมาแล้ว

อดเปรี้ยวไว้กินหวานนี้ ที่ว่าเป็นเครื่องมือให้เข้าถึงความสำเร็จเพราะเป็นการฝึกผู้ปฏิบัติให้รู้จักอดทน ขยันหมั่นเพียร  ยึดมั่นในสัจจะ และดำเนินชีวิตด้วยปัญญา ซึ่งตรงกันข้ามกับประเภทใจเร็วด่วนได้ หรือชิงสุกก่อนห่ามที่แม้จะดูว่าสมประโยชน์ในเบื้องต้นและได้เสพสุขแบบทันใจ แต่ก็ไม่ยั่งยืนถาวรและมักจะตามมาด้วยความทุกข์ความผิดหวังในที่สุด